เห็ดหลินจือแดงสกัดยาสมุนไพรยับยั้งโรคบำรุงร่างกาย

เห็ดหลินจือแดง

การรับประทานสมุนไพรบำรุงร่างกายเป็นหนึ่งวิธีทางเลือกที่คนสนใจอย่างมาก ด้วยสรรพคุณที่มากมาย และไม่มีอันตรายต่อร่างกาย
เห็ดหลินจือ จัดเป็นสมุนไพรบำรุงร่างกายชั้นดีเยี่ยม ได้รับฉายานาม ว่าเป็นสมุนไพรอายุวัฒนะ ของประเทศจีนเลยทีเดียว ซึ่งเราจะเห็นได้ว่า คนจีนต่อให้สูงอายุแล้วทำไมสุขภาพดี และแข็งแรง นั่นคือ คนจีนจะนิยมดื่มสมุนไพรเพื่อสุขภาพ
เห็ดหลินจือ มีใช้มานานหลายพันปี ด้วยสรรพคุณที่มากมายทำให้เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก และด้วยสรรพคุณที่มีมากมายนั้นเอง สมุนไพร เห็ดหลินจือแดง เป็นที่สนใจของนักวิจัยอย่างมากเพื่อที่จะเข้ามาศึกษาค้นคว้าว่า สมุนไพรชนิดนี้ดีจริงหรือไม่
อย่างไรก็ดี มีงานวิจัยจากหลายๆประเทศระบุออกมาแล้วว่า สมุนไพรเห็ดหลินจือ เป็นสมุนไรที่ดีที่สุด 1ใน3 ของโลกเลยก็ว่าได้ มีคุณสมบัติทั้ง บำรุง บรรเทา และรักษาโรคต่างๆได้อย่างมากมาย
สมุนไพรเห็ดหลินจือแดง ประกอบไปด้วยสารมากมายหลายชนิดที่ออกฤทธิ์ทางยา ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย
ได้แก่
1. สารโพลีแซคคาไรด์ สารนี้ช่วยป้องกันโรคมะเร็งชนิดต่างๆได้ทุกระยะ และช่วยยับยั้ง ทำลายการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งได้อีกด้วย หากผู้ป่วยที่เป็นมะเร็งอยู่สามารถรับประทานเห็ดหลินจือได้ เพราะหากผู้ป่วยที่เป็นมะเร็งเวลาทำคีโมจะทำให้เม็ดเลือกขาวต่ำลง สารในเห็ดหลินจือแดง จะช่วยเพิ่มเม็ดเลือดขาวเพิ่มมากขึ้นกว่าปกติ ซึ่งจะทำให้ผู้ป่วยหลังทำคีโมได้รับผลข้างเคียงจากการทำคีโมน้อยลง
2. สารไตรเทอปินอยด์ เป็นสารที่สามารถละลายในน้ำได้ดี และสารนี้ทำให้เห็ดหลินจือมีรสชาติที่ขม ช่วยลดความดันโลหิต ต้านพิษต่างๆในร่างกาย ช่วยบำรุงตับให้แข็งแรง ช่วยลดการอุดตันในเส้นเลือด และป้องกันอาการแพ้ต่างๆได้ เช่น แพ้อาหาร แพ้อากาศ แพ้ยา เป็นต้น
3. สารเยอร์มาเนียม เป็นสารช่วยบำรุงหัวใจ ช่วยบำรุงสมอง บำรุงประสาท กระตุ้นความจำ ช่วยขจัดสารพิษ และป้องกันแบคทีเรียออกจากร่างกาย
4. สารนิวคลีโอไทด์ เป็นสารที่ช่วยทำให้เซลล์ต่างๆในร่างกายไม่แย่ลง ซึ่งนำไปสู่การเป็นเนื้องอก
5. สารอาดีโนซีน เป็นสารที่ช่วยลดระดับไขมันในเส้นเลือด ควบคุมระดับน้ำตาลสำหรับผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวาน เสริมสร้างฮอร์โมนให้กับร่างกาย
นอกจากสารเหล่านี้แล้วนั้นในเห็ดหลินจือแดง ยังมีสารอื่นๆอีกมากมาย ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย อาทิเช่น สารกาโนเดอริก กรดอะมิโน โปรตีน แร่ธาตุ แคมเซียม และวิตามินต่างๆ เป็นต้น

เห็ดหลินจือแดงยอดสมุนไพรสรรคุณยับยั้งโรคร้าย

หลายคุณประโยชน์ที่ทุกคนควรรู้เกี่ยวกับเห็ดหลินจือมีมากมาย สมุนไพรที่หลายคนรู้จักชื่อ แต่ไม่รู้จักคุณประโยชน์ วันนี้เราจะมานำเสนอเกี่ยวกับเห็ดชนิดนี้กัน เพราะเป็นกระแสที่มีมาอย่างยาวนานสำหรับคนรักสุขภาพและต้องการบริโภคสารที่มีคุณประโยชน์จากเห็ดหลินจือแดง

                   เห็ดหลินจือนับเป็นสมุนไพรที่มาฤทธิ์ทางยา ของประเทศจีน มีต้นเกิดในประเทศจีนมาอย่างยาวนานนับ 2,000 ปี ซึ่งในประเทศไทยเราก็มีเห็ดชนิดนี้เช่นกัน แต่มีชื่อเรียกว่า เห็ดหมื่นปีหรือเห็ดจวักงู ลักษณะเป็นเห็ดที่มีหมวกบานๆสีออกแดงน้ำตาลหรือแดงเข้ม ส่วนมากสารอาหารที่มีในเห็ดชนิดนี้มักจะอยู่ตรงส่วนหมวกเห็ด สารที่มีฤทธิ์ทางยาชื่อว่า พอลิแซกคาไรท์ มีมากในเห็ดหลินจือแดง

                   ด้วยความที่มีสารพอลิแซกคาไรท์อยู่ในเห็ดชนิดนี้มาก ทำให้มีสรรพคุณที่มีฤทธิ์ทางยามากมาย ซึ่ง       เห็ดหลินจือ บำรุงระบบในร่างกาย 3 ระบบหลัก คือ ระบบทางเดินทางอาหาร ระบบทางเดินหายใจและระบบทางเดินโลหิต นอกจากนี้ยังสามารถรักษาโรคได้อีกเช่นกัน เห็ดหลินจือแดง ช่วยยับยั้งต่อต้านการเกิดโรคมะเร็งโรคหัวใจ โรคเบาหวาน ลดน้ำตาลในเลือดให้เป็นปกติ โรคความดันโลหิต สรรพคุณของเห็ดหลินจือในด้านเป็นยาบำรุงก็ได้เช่นกัน คือบำรุงร่างกาย บำรุงกล้ามเนื้อ ช่วยในเรื่องบรรเทาความเมื่อยล้าของร่างกายจากการทำงาน การอยู่ในที่สูง ช่วยให้นอนหลับได้สนิท ผิวพรรณสดใส และช่วยในการขับสารพิษออกจากร่างกาย

                สรรพคุณมากมายที่มีในเห็ดหลินจือนี้ ทำให้เกิดการสกัดเอาสารอาหารที่มีออกมาในรูปแบบต่างๆเพื่อให้เกิดคุณประโยชน์สูงสุดและง่ายต่อการบริโภค ทำให้ผู้คนหันมาบริโภคกันมากขึ้น ในรูปแบบของเห็ดหลินจือสกัด น้ำเห็ดหลินจือ แคปซูลเห็ดหลินจือ เป็นต้น แต่หลังจากการบริโภคเห็ดหลินจือแดงไปนั้น หลายคนมีอาการที่ผิดปกติไป เช่น อาเจียน มึนเวียนศรีษะ นั้นเป็นผลข้างเคียงที่เกิดจากการขับสารพิษออกมาจากร่างกาย เป็นผลข้างเคียงที่ไม่ร้ายแรงมากนัก เกิดขึ้นประมาณ 1 สัปดาห์ หลังจากนั้นจะเป็นปกติ และผู้บริโภคเห็ดหลินจือจะสามารถเห็นความเปลี่ยนแปลงหลังการบริโภคคือผิวพรรณที่ใส เปล่งปลั่งขึ้น ดูมีน้ำมีนวลนั้นเอง

เห็ดหลินจือแดงประโยชน์นานาชนิดบำรุงร่างกาย

เห็ดหลินจือ เห็ดที่มีคุณประโยชน์นานาชนิด เรียกได้ว่าเป็นเห็ดที่มีมายาวนาน เนื่องด้วยใช้เพื่อการรักษาโรคที่หลากหลาย จนทำให้เกิดการนำมาสกัดเพื่อเอาสารที่มีในเห็ดหลินจือแดงมาใช้ประโยชน์มากมาย ซึ่งหลายคนอาจจะเคยได้ยินชื่อของเห็ดชนิดนี้มาแล้วบ้าง แต่อาจจะไม่รู้ถึงประโยชน์ของมัน วันนี้เราจะมานำเสนอเห็ดหลินจือกัน ซึ่งมีทั้งเห็ดหลินจือแดงและเห็ดหลินจือสีน้ำตาลกันว่ามีที่มาอย่างไร และใช้รักษาโรคอะไรได้บ้าง

         เห็ดหลินจือสายพันธุ์สีแดงเป็นเห็ดที่มีมายาวนานนับพันปี เป็นเห็ดที่มีความโดดเด่นในเรื่องของสารอาหารและคุณประโยชน์มากมาย ซึ่งสรรพคุณของเห็ดหลินจือแดงชนิดนี้คือ ช่วยเพิ่มพลังในร่างกาย กระตุ้นระบบต่างๆของร่างกายได้ดี ควบคุมความดันโลหิต ต้านมะเร็ง ลดน้ำตาลในเลือด ช่วยบำรุงตับและไต ช่วยทำให้นอนหลับได้ง่ายขึ้น เหมาะสำหรับคนทุกเพศทุกวัย เนื่องจากได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเห็ดหลินจือเป็นสมุนไพรที่ดีที่สุดในด้านการบำรุงร่างกาย ซึ่งสามารถรับประทานได้ในผู้ที่เป็นโรคหรือผู้ที่อยู่ในภาวะปกติ เพราะในเห็ดมีสารโพลีแซกคาไรด์ที่ช่วยขับสารพิษของจากร่างกายในรูปแบบของการขับถ่าย

       ปัจจุบันสารสกัดต่างๆในเห็ดหลินจือแดงได้ทุกสกัดออกมาในรูปแบบของแคปซูลที่ทำให้ทานง่ายและพกพาได้สะดวก ซึ่งได้มีการกำหนดปริมาณการใช้ของสารสกัดจากเห็ดหลินจือคือ หากใช้เพื่อการรักษาโรคมะเร็ง ควรใช้เป็นเห็ดหลินจือแห้งวันละ 9-15 กรัมต่อวันหรือเห็ดหลินจือสกัดวันละ 2 กรัม หากใช้เพื่อรักษาโรคทั่วไปใช้เห็ดหลินจือสกัดวันละ 0.5-2 กรัม และหากใช้เพื่อการบำรุงร่างกายควรใช้ไม่เกิน 6 กรัมต่อวัน ซึ่งประเทศไทยได้มีการจดสิทธิ์บัตรเกี่ยวกับสรรพคุณทางยาของเห็ดหลินจือไว้แล้วว่า เป็นเห็ดที่เหมาะแก่การบำรุงร่างกาย ทำให้ผู้บริโภควางใจได้เลยว่า เห็ดหลินจือมีประโยชน์สามารถบริโภคได้อย่างปลอดภัย

      แต่เนื่องจากมีผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับเห็ดหลินจือออกมามากมาย ไม่ว่าจะเป็นเห็ดหลินจือแคปซูล น้ำเห็ดหลินจือ หรือเห็ดหลินจือผงก็ตาม นับว่าเป็นทางเลือกที่แปลกใหม่และเหมาะแก่ความต้องการของผู้บริโภคที่รักสุขภาพที่น่าจับตามองอีกด้วย

วิธีต้มเห็ดหลินจือแดง ที่คุณควรทราบ

 เห็ดหลินจือ เป็นสมุนไพรทานง่าย เพียงนำ เห็ดหลินจือแดง ต้มรับประทานดื่มในตอนเช้าแทน้ำชาได้ครับ  อาจจะมีรสขม ไปหน่อย แต่เป็นเรื่องธรรมดา ยาต้องมัรสขมบ้าง คำโบราณว่า หวานเป็นลม ขมเป็นยา  แต่เราสามารถนำไปสมกับน้ำก็ได้ครับ  เห็ดหลินจือ เป็นสมุนไพรที่มีพลังมหัศจรรย์มาก เมือต้มทานเป็นประจำสามารถป้องกันสร้างภูมิคุ้มกันให้ผึ้

กับร่างกายอย่างดีเยี่ยม คนที่มีอายุมาก ควรดื่มน้ำเห็ดหลินจือ เพราะร่างกายจะได้มีภูมิต้านทานได้ดีขึ้น วันนี้มีวิธีการต้ม                  เห็ดหลินจือแดง เพื่อดื่มเป็นยาบำรุงร่างกาย สำหรับท่านที่ต้องการ แต่ไม่รู้ว่าเขามีวิธีการต้มอย่างไร ลองมาดูกันครับ   

              สำหรับวิธีการต้ม เห็ดหลินจือ เพื่อบริโภคเป็นยานั้น  ไม่มีอะไรซับซ้อนง่ายง่าย  เพียงน้ำ เห็ดหลินจือแดง มาฝานบาง สัก 4-5 ชิ้น ต่อน้ำ 3 ลิตร  ต้องต้มนานหน่อย จนน้ำเดือด ประมาณ 20 นาที จากนั้นจึงค่อย  หรี่ไ ให้อ่อน  จากนั้นต้มต่อไปอีก 10-15 นาที  เสร็จแล้วให้กรองเอาแต่น้ำ เห็ดหลินจือ นะครับ  สามารถดื่มแทนน้ำเปล่าได้ และแทนการดื่มน้ำชาในตอนเช้า  แต่อาจจะมีรสขมนิดหน่อย  ให้เติมน้ำอีกนิดหน่อย  เพื่อที่จะให้รสขมนั้นอ่อนลง  หรือถ้ามีน้ำผึ้งก็สมลงไปได้จะดีมาก ทำให้ดื่มง่ายขึ้น

การก็บรักษาน้ำ เห็ดหลินจือแดง

ให้เก็บไว้ในที่มีอุณหภูมิต่ำ  หรืออาจจ ะแช่ไว้ในตู้เย็นก็ได้  ในการต้มเห็ดหลินจือไว้ดื่มเพื่อสุขภาพนั้น ควรต้มให้น้ำเดือดจะทำให้สารารรพคุณออกมาเต็มที่ 100%  แต่ถ้าหากต้มไม่เดือด สารสรรพคุณจะออกมาไม่เต็มที่ สามารถดื่มแทนน้ำชาได้ ไม่มีพิษมีภัยอะไรแต่อย่างใด 

เวลาที่ควรดื่ม

ควรเป็นเวลาที่ท้องว่าง โดยเฉพาะตอนเช้าตรู่จะดีมาก  เวลานี้จะได้ลดีที่สุดต่อสุขภาพ และไม่ควรทานร่วมกับอาหารอย่างอื่น  เห็ดหลินจือ สามารถทานได้เรื่อย   เพราะเป็นยาอายุวัฒนะ เป็นยาบำรุงร่างกาย ยิ่งทานมากสุขภาพก็ดีมาก

คำแนะนำ

เห็ดหลินจือ ที่ยังไม่ได้ต้มอย่าเก็บไว้ในที่ชื้น ควรเก็บไว้ในที่แห้ง และไม่ควรเก็บไว้ในตู้เย็นเป็นอันขาด  เห็ดหลินจืออที่จะใช้ต้มนั้น ต้องสะอาดไม่มีแล หรือเชื้อรา

             เห็ดหลินจือสามารถดื่มแทนน้ำชาในตอนเช้าได้ และเป็นลดีต่อสุขภาพด้วย ดื่มทุกวันวันละเยอะ  สุขภาพก็ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะคนที่อายุมาก ควรดื่มเป็นประจำ เพื่อสุขภาพจะได้ดี การดื่มทุกวันจะทำให้ ร่างกายปรับความสมดุล สร้างภูมิคุ้มกันในการที่จะต่อสู้กับโรคภัยต่าง  เห็ดหลินจือ สามารถหาได้ตามป่าเขาทั่วไป ถ้าหากไม่สะดวกไปหาตามป่าก็หาซื้อได้ตามที่จำหน่ายทั่วไป 

ถั่งเฉ้า หรือ ตังถั่งเช้า

ถั่งเฉ้า หรือ ตังถั่งเช้า เป็นสมุนไพรจีนชนิดหนึ่ง ว่ากันว่า ตัวถั่งเฉ้าที่เรานิยมนำมาใช้เป็นสมุนไพรที่เกิดจากตัวหนอนผีเสื้อที่จำศีลอยู่ใต้ดินในช่วงฤดูหนาว บริเวณที่ราบสูงทิเบต และเจ้าตัวหนอนที่จำศีลอยู่นี้เอง ถูกสปอร์ของเห็ดราอาศัยเป็นปรสิต ฝังร่าง เจริญเติบโตด้วยการสร้างเส้นใยออกมาทางส่วนหัวของตัวหนอน ในช่วงฤดูร้อน ทำให้มีผู้กล่าวถึง ถั่งเฉ้ากันว่า ฤดูหนาวเป็นหนอน ฤดูร้อนเป็นหญ้า หรือหญ้าหนอน ที่เราได้ยินกันมาช้านานนั่นเอง

ถั่งเฉ้า มีสรรพคุณโดดเด่นในเรื่องของการเสริมสมรรถภาพทางเพศ ถึงกับมีสมญานามว่า “ไวอากร้า แห่งเทือกเขาหิมาลัย”  ด้วยความที่เป็นสมุนไพรหายาก และเกิดขึ้นเฉพาะที่ ทำให้ ถั่งเฉ้า มีราคาแพงยิ่งกว่าทองคำเสียอีก นอกจากจะมีสรรพคุณในด้านเสริมสมรรถภาพทางเพศแล้ว ยังสามารถบำบัดโรคได้หลายโรค อีกทั้งยังบำรุงร่างกาย บำรุงไต บำรุงหัวใจ เสริมสร้างฮอร์โมน ป้องกันโรคเบาหวาน ฯลฯ เรียกได้ว่าเป็นยาอายุวัฒนะ ซึ่งมีสรรพคุณไม่แพ้โสมเกาหลีเลยทีเดียว

จากการวิเคราะห์ทางด้านการแพทย์ ถั่งเฉ้ายังมีสารอาหารอื่นๆ อีกมากมาย โดยเฉพาะสารคอร์โดเซปิน ซึ่งมีฤทธิ์บำรุงไต กระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต ช่วยรักษาสมดุลของคลอเรสเตอรอลในหลอดเลือด และเสริมสร้าง บำรุงกำลัง ฟื้นฟูสมรรถภาพทางเพศได้เป็นอย่างดี สำหรับสังคมชาวจีน นิยมให้ถั่งเฉ้าเป็นของขวัญในงานแต่งงานแก่คู่บ่าว-สาว เพราะเชื่อว่า ถั่งเฉ้า มีฤทธิ์ช่วยให้อสุจิแข็งแรงสำหรับผู้ชาย ส่วนผู้หญิงเมื่อได้บริโภคถั่งเฉ้า จะบำรุงครรภ์ ช่วยให้มีบุตรง่ายอีกด้วย

มะเร็ง เป็นโรคที่น่ากลัวในความรู้สึกของคน

มะเร็ง เป็นโรคที่น่ากลัวในความรู้สึกของทุกๆ คน  ในแต่ละปี มีคนป่วยเป็นโรคนี้นับแสนคน และมีคนป่วยที่เสียชีวิตจากโรคนี้ กว่า 60,000 คนจากจำนวนที่เป็นอยู่ทั้งหมด  โรคมะเร็ง นอกจากจะเกิดจากกรรมพันธุ์แล้ว ยังเกิดจากการรับประทานอาหารที่มีอนุมูลอิสระเป็นจำนวนมาก เช่น ของร้อน ของปิ้งย่างที่มีขอบเกรียมๆ ไหม้ๆ ล้วนแต่เป็นสารก่อให้เกิดมะเร็งทั้งสิ้น นอกจากนี้สภาพแวดล้อมที่เป็นอยู่ จากโรงงานอุตสาหกรรมที่ทิ้งสารปรอทลงในน้ำ เมื่อเรารับประทานปลาที่เติบโตจากแหล่งน้ำดังกล่าว ก็ย่อมจะได้รับสารปรอทที่เป็นสารก่อมะเร็งตามไปด้วย  จะเห็นได้ว่า ทุกสิ่งที่อยู่รอบตัวเรา เป็นผลสนับสนุนให้เกิดโรคร้ายนี้ทั้งสิ้น  เราจะระวังป้องกัน และรักษาไม่ให้เกิดโรคนี้กับเราได้อย่างไร

ในทางการแพทย์ และวงการอุตสาหกรรมเกษตรในปัจจุบัน มีการทดลอง วิจัย ให้ผู้ป่วยโรคมะเร็งบริโภค และใช้ยาที่สกัดจากเห็ดถั่งเฉ้า ในระยะเวลาติดต่อกันนานนับเดือน ซึ่งผลปรากฏว่า ผู้ป่วยโรคมะเร็ง มีอาการดีขึ้น เซลล์ต่างๆ ที่เจริญผิดปกติ ก็ถูกลดจำนวนลง นั่นแสดงให้เห็นว่า นอกจากเห็ดถั่งเฉ้าจะเป็นสมุนไพรจีนที่มีสรรพคุณโดดเด่นในเรื่องเพิ่มสมรรถภาพทางเพศแล้ว ยังสามารถใช้รักษามะเร็งได้ดีอีกด้วย  แต่ความวิตกกังวลของผู้ป่วยมะเร็งที่ต้องการบริโภคเห็ดถั่งเฉ้า ขึ้นอยู่กับราคาเห็ดถั่งเฉ้า ซึ่งแสนจะแพง ยิ่งกว่าราคาทองคำ เป็นเพราะเห็ดถั่งเฉ้าของแท้ที่มีต้นกำเนิดอยู่แถบเทือกเขาหิมาลัย เป็นของที่หายากมาก ในหนึ่งปี จะมีการเก็บเห็ดถั่งเฉ้าได้เฉพาะในฤดูร้อนเท่านั้น ส่วนในฤดูหนาว เห็ดถั่งเฉ้าที่เติบโตจากการฝังตัวอยู่ในหนอนผีเสื้อ จะจำศีลอยู่ใต้ดิน รอเวลาที่อากาศคลายความหนาวเย็นแล้ว จึงจะค่อยๆ โผล่ขึ้นมาเหนือพื้นดินในลักษณะเหมือนตัวหนอน ที่เราเรียกกันว่า หนอนหญ้า  แน่นอนว่า ปริมาณที่เก็บได้ในแต่ละปี มีจำนวนน้อยไม่พอกับความต้องการของผู้บริโภค จึงทำให้ราคาเห็ดถั่งเฉ้าแพงมาก ตั้งแต่ราคากิโลกรัมละ 300,000 – 2,500,000 บาท ถ้าใครไม่มีฐานะดีจริง ก็คงรักษามะเร็งด้วยเห็ดถั่งเฉ้าไม่ได้แน่นอน